จุดมุ่งหมายการศึกษาอิงมาตรฐาน



จุดมุ่งหมายการศึกษาอิงมาตรฐาน

Harris and Carr (1996 รุ่งนภา นุตราวงศ์, ผู้แปล 2545 : 14-16) ให้คําจํากัดความของมาตรฐาน เนื้อหา(content standard) และมาตรฐานการปฏิบัติของผู้เรียน (student performance standards) ดังนี้
มาตรฐานเนื้อหา (content standard) ระบุองค์ความรู้ที่สําคัญ ทักษะและพัฒนาการด้านจิตใจ ดังนี้
          1. องค์ความรู้ที่สําคัญ (essential knowledge) ระบุถึง แนวความคิด ประเด็นปัญหา ทางเลือก กฎเกณฑ์ และความคิดรวบยอดในวิทยาการต่าง ๆ ที่สําคัญ ตัวอย่างเช่น
         - ผู้เรียนสามารถอธิบายช่วงเวลา และเหตุการณ์สําคัญในประวัติศาสตร์ และวิเคราะห์ช่วงเวลา การเปลี่ยนแปลงในท้องถิ่น ชุมชน ในประทศและในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก
         - ผู้เรียนสามารถเข้าใจประวัติความเป็นมา และโครงสร้างของภาษาอังกฤษ (ประโยค ย่อหน้าบทความ) 
         - ผู้เรียนสามารถเข้าใจธรรมชาติและการทํางานของเซลล์ ทั้งการทํางานเป็นเอกเทศและการ ทํางานร่วมกันเป็นระบบที่ซับซ้อน
          2. ทักษะ (Skills) เป็นวิธีการคิด การทํางาน การสื่อสาร และการศึกษาสํารวจ ตัวอย่าง
          - ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการบรรยาย และอธิบายปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
          - ใช้ระเบียบวิธีการทางสถิติในการเก็บรวบรวมข้อมูล ตีความ เปรียบเทียบ และสรุปผล เกี่ยวกับเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ในสังคม
          3. พัฒนาการด้านจิตใจ (Habits of mind) การเรียนรู้และประสบการณ์จากการศึกษาทั้งใน โรงเรียนและนอกโรงเรียน มีผลต่อพัฒนาการด้านจิตใตของผู้เรียน รวมถึงกระบวนการในการศึกษาค้นคว้า การแสดงข้อมูล หลักฐานสนับสนุนความคิด การอภิปรายโต้แย้ง และความพึงพอใจในการทํางานร่วมกับผู้อื่น ตัวอย่าง
          - ผู้เรียนสามารถประเมินการเรียนรู้ของตนเอง โดยการสร้างเกณฑ์เพื่อใช้ประเมินงานที่มีคุณภาพ
          - ผู้เรียนสามารถแสดงออกถึงความสามารถในการทํางานร่วมกับผู้อื่น การเป็นผู้นํา และความมั่นคงในตนเอง
มาตรฐานการปฏิบัติของผู้เรียน
          มาตรฐานการปฏิบัติ (student performance standards) จะบอกถึงคุณภาพ โดยที่มาตรฐานเนื้อหาจะ ระบุถึงสิ่งใดที่ผู้เรียนควรรู้ และทักษะใดที่ผู้เรียนควรทําได้ มาตรฐานการปฏิบัติจะบอกถึงระดับคุณภาพและ ระดับที่ผู้เรียนต้องรู้หรือต้องทําสิ่งนั้นได้ ตัวอย่าง
กรณีที่มาตรฐานเนื้อหาระบุว่า ผู้เรียนเรียนรู้และเข้าใจข้อมูลจากสื่อ ภาพ และบทอ่านจากสื่อต่าง ๆ อย่างหลากหลาย
          มาตรฐานการปฏิบัติ อาจจะระบุว่า ผู้เรียนควรอ่านหนังสืออย่างน้อยที่สุด 25 เล่ม ต่อปี เลือกอ่าน บทอ่านที่มีคุณภาพทั้งที่เป็นเรื่องอมตะ และเรื่องราวที่ทันสมัย จากหนังสือวรรณกรรมสําหรับเด็ก หรือจาก แหล่งข้อมูลอื่น ๆ เช่น จาก นิตยสาร หนังสือพิมพ์ หนังสือเรียน และสื่อเทคโนโลยี
Wiggins (1994) จัดกลุ่มมาตรฐานการเรียนรู้ไว้4 กลุ่ม คือ
          1. มาตรฐานผลลัพธ์หรือผลกระทบ (Impact) เป็นมาตรฐานที่ระบุผลที่ต้องการจากการ ปฏิบัติงานใดงานหนึ่งของผู้เรียน เช่น กําหนดให้ผู้เรียนกล่าวสุนทรพจน์เพื่อให้เกิดผลอย่างใดอย่างหนึ่งต่อ ผู้ฟัง หรือให้ผู้เรียนเขียนสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายที่กําหนดเพื่อผลอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือให้ผู้เรียนใช้ความรู้ ทางภูมิศาสตร์ในการวางแผนอนาคต เป็นต้น
          2. มาตรฐานกระบวนการ (Process) เป็นมาตรฐานที่สะท้อนยุทธวิธี เทคนิควิธีการ ใช้ในการปฏิบัติงาน เช่น มาตรฐานที่กําหนดให้ผู้เรียนกล่าวสุนทรพจน์อย่างชัดเจน หรือใน สื่อสารได้อย่างสละสลวยสัมพันธ์กัน หรือให้ผู้เรียนใช้กระบวนการที่เหมาะสมในการสร้างหอ กฎเกณฑ์
          3. มาตรฐานเนื้อหา (content) เป็นมาตรฐานที่ระบุเนื้อหาสาระ ความคิดรวบยอด และข้อมูลต่าง ๆ เช่น    ผู้เรียนรู้สมบัติของสสาร มีความคิดรวบยอดเกี่ยวกับการผลิต การจําหน่าย ต้องการของตลาด เป็นต้น
          4.มาตรฐานที่แสดงกฎหรือรูปแบบ (Rule or form) เป็นมาตรฐานที่เกี่ยวกับสูตร กฎเกณฑ์ซึ่งมี รูปแบบเฉพาะ ปริมาตร ปริมาณ อัตราส่วน ตัวอย่าง ผู้เรียนสร้างกราฟ ซึ่งมีข้อมูลกํากับและใช้สีได้อย่าง ถูกต้อง มาตรฐานนี้เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น ให้ผู้เรียนใช้คอมพิวเตอร์และเครื่องมือสื่อสาร ต่าง ๆ ในการเก็บรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ

           การกําหนดมาตรฐานในหน่วยการเรียนให้มาจากหลายมาตรฐาน จึงจะช่วยให้กิจกรรมการเรียน การสอนและการประเมินมีความครอบคลุมยิ่งขึ้น การกําหนดมาตรฐานที่เป็นกระบวนการก็จะไม่มี ความหมายหากไม่มีเนื้อหา หรือการกําหนดมาตรฐานที่เน้นเนื้อหาเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่ได้ประโยชน์แก่ ผู้เรียนเท่าที่ควร หากไม่มีการนํากระบวนการนําไปปรับใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ


เพิ่มเติม

จุดมุ่งหมายของการวัดและประเมินผลการเรียนรู้
    การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนต้องอยู่บนจุดมุ่งหมายพื้นฐานสองประการ ประการแรก คือ การวัด และประเมินผลเพื่อพัฒนาผู้เรียน โดยเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผลการเรียนและการเรียนรู้ของผู้เรียนในระหว่างการเรียนการสอน อย่างต่อเนื่อง บันทึก วิเคราะห์แปลความหมายข้อมูล แล้วนำมาใช้ในการส่งเสริมหรือปรับปรุงแก้ไขการเรียนรู้ของผู้เรียน และการสอนของครูการวัดและประเมินผลกับการสอนจึงเป็นเรื่องที่สัมพันธ์กัน หากขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดการเรียนการสอนก็ขาด ประสิทธิภาพ

    การประเมินระหว่างการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาการเรียนรู้เช่นนี้เป็นการวัดและประเมินผลย่อย (Formative Assessment) ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนทุกวัน เป็นการประเมินเพื่อให้รู้จุดเด่น จุดที่ต้องปรับปรุง จึงเป็นข้อมูลเพื่อใช้ในการพัฒนา ในการเก็บข้อมูล ผู้สอนต้องใช้วิธีการและเครื่องมือการประเมินที่หลากหลาย เช่น การสังเกต การซักถาม การระดมความคิดเห็นเพื่อ ให้ได้มติข้อสรุปของประเด็นที่กำหนด การใช้แฟ้มสะสมงาน การใช้ภาระงานที่เน้นการปฏิบัติการประเมินความรู้เดิม การให้ผู้เรียน ประเมินตนเอง การให้เพื่อนประเมินเพื่อน และการใช้เกณฑ์การให้คะแนน (Rubrics) สิ่งสำคัญที่สุดในการประเมินเพื่อพัฒนา คือ การให้ข้อมูลย้อนกลับแก่ผู้เรียนในลักษณะคำแนะนำที่เชื่อมโยงความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ทำให้การเรียนรู้พอกพูน แก้ไขความคิด ความเข้าใจเดิมที่ไม่ถูกต้อง ตลอดจนการให้ผู้เรียนสามารถตั้งเป้าหมายและพัฒนาตนได้

    จุดมุ่งหมายประการที่สอง คือ การวัดและประเมินผลเพื่อตัดสินผลการเรียน เป็นการประเมินสรุปผลการเรียนรู้ (Assumptive Assessment) ซึ่งมีหลายระดับ ได้แก่ เมื่อเรียนจบหน่วยการเรียน จบรายวิชาเพื่อตัดสินให้คะแนน หรือให้ระดับ ผลการเรียน ให้การรับรองความรู้ความสามารถของผู้เรียนว่าผ่านรายวิชาหรือไม่ ควรได้รับการเลื่อนชั้นหรือไม่ หรือสามารถ จบหลักสูตรหรือไม่ ในการประเมินเพื่อตัดสินผลการเรียนที่ดีต้องให้โอกาสผู้เรียนแสดงความรู้ความสามารถด้วยวิธีการ ที่หลากหลายและพิจารณาตัดสินบนพื้นฐานของเกณฑ์ผลการปฏิบัติมากกว่าใช้เปรียบเทียบระหว่างผู้เรียน

    การกำกับดูแลคุณภาพการศึกษา
    การจัดการศึกษาในปัจจุบันนอกจากให้ทั่วถึงแล้วยังมุ่งเน้นคุณภาพด้วย ผู้ปกครอง สังคม และรัฐต้องการเห็นหลักฐาน อันเป็นผลมาจากการจัดการศึกษา นั่นคือ คุณภาพของผู้เรียนที่เป็นไปตามมาตรฐานของหลักสูตร หน่วยงานที่รับผิดชอบนับตั้งแต่ สถานศึกษา ต้นสังกัด หน่วยงานระดับชาติที่ได้รับมอบหมาย จึงมีบทบาทหน้าที่ในการตรวจสอบคุณภาพผู้เรียนตามความคาดหวัง ของหลักสูตร ดังนั้น หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ จึงกำหนดให้มีการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ใน ๔ ระดับ ได้แก่ ระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพื้นที่การศึกษา และระดับชาติทุกระดับมีเจตนารมณ์เช่นเดียวกัน คือ ตรวจสอบความก้าวหน้าในการเรียนรู้ของผู้เรียน เพื่อนำผลการประเมินมาใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
   
    การประเมินระดับชั้นเรียน
    เป็นการวัดและประเมินผลที่อยู่ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ผู้สอนดำเนินการเพื่อพัฒนาผู้เรียนและตัดสิน ผลการเรียนในรายวิชา/กิจกรรมที่ตนสอน ในการประเมินเพื่อพัฒนา ผู้สอนประเมินผลการเรียนรู้ตามตัวชี้วัดที่กำหนดเป็นเป้าหมาย ในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การซักถาม การสังเกต การตรวจการบ้าน การแสดงออกในการปฏิบัติผลงาน การแสดงกิริยาอาการต่าง ๆ ของผู้เรียนตลอดเวลาที่จัดกิจกรรม เพื่อดูว่าบรรลุตัวชี้วัดหรือมีแนวโน้มว่าจะบรรลุตัวชี้วัดเพียงใด แล้วแก้ไขข้อบกพร่องเป็นระยะ ๆ อย่างต่อเนื่อง

การประเมินเพื่อตัดสินเป็นการตรวจสอบ ณ จุดที่กำหนด แล้วตัดสินว่าผู้เรียนมีผลอันเกิดจากการจัดกิจกรรม การเรียนการสอนหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเก็บคะแนนของหน่วยการเรียนรู้หรือของการประเมินผล กลางภาค หรือปลายภาคตามรูปแบบการประเมินที่สถานศึกษากำหนด ผลการประเมินนอกจากจะให้เป็นคะแนนหรือระดับ ผลการเรียนแก่ผู้เรียนแล้ว ต้องนำมาเป็นข้อมูลใช้ปรับปรุงการเรียนการสอนต่อไปอีกด้วย

    การประเมินระดับสถานศึกษา
    เป็นการตรวจสอบผลการเรียนของผู้เรียนเป็นรายปี/รายภาค ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน การอนุมัติผลการเรียน การตัดสินการเลื่อนชั้นเรียน และเป็นการประเมินเพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการศึกษาของสถานศึกษาว่าส่งผลต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนตามเป้าหมายหรือไม่ ผู้เรียนมีสิ่งที่ต้อง ได้รับการพัฒนาในด้านใด รวมทั้งสามารถนำผลการเรียนของผู้เรียนในสถานศึกษาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ระดับชาติและระดับเขตพื้นที่ การศึกษา ผลการประเมินระดับสถานศึกษาจะเป็นข้อมูลและสารสนเทศเพื่อการปรับปรุงนโยบาย หลักสูตร โครงการ หรือวิธีการ จัดการเรียนการสอน ตลอดจนเพื่อการจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาตามแนวทางการประกันคุณภาพการศึกษา และการรายงานผลการจัดการศึกษาต่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองและชุมชน

       การประเมินระดับเขตพื้นที่การศึกษา
     เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับเขตพื้นที่การศึกษาตามมาตรฐานการเรียนรู้ของหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเขตพื้นที่การศึกษา ตามภาระความรับผิดชอบ สามารถดำเนินการโดยประเมินคุณภาพของผู้เรียนด้วยวิธีการและเครื่องมือที่เป็นมาตรฐานซึ่งจัดทำและดำเนินการโดยเขตพื้นที่ การศึกษา หรือด้วยความร่วมมือกับหน่วยงานต้นสังกัดและ/หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังสามารถดำเนินการได้ด้วย การตรวจสอบข้อมูลจากการประเมินระดับสถานศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษา

       การประเมินระดับชาติ
    เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับชาติตามมาตรฐานการเรียนรู้ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน สถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนทุกคนที่เรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ เข้ารับการประเมิน ผลจากการประเมินใช้เป็นข้อมูลในการเทียบเคียงคุณภาพการศึกษาในระดับต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ในการวางแผน ยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษา ตลอดจนเป็นข้อมูลสนับสนุนการตัดสินใจในระดับนโยบายของประเทศ ข้อมูลการประเมินในระดับต่าง ๆ ข้างต้น เป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษาในการตรวจสอบ ทบทวน พัฒนาคุณภาพ ผู้เรียน ถือเป็นภาระความรับผิดชอบของสถานศึกษาที่จะต้องจัดระบบดูแลช่วยเหลือ ปรับปรุงแก้ไข ส่งเสริมสนับสนุน เพื่อให้ผู้เรียน ได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพบนพื้นฐานความแตกต่างระหว่างบุคคลที่จำแนกตามสภาพปัญหาและความต้องการ ได้แก่ กลุ่มผู้เรียน ทั่วไป กลุ่มผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษ กลุ่มผู้เรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ กลุ่มผู้เรียนที่มีปัญหาด้านวินัยและพฤติกรรม กลุ่มผู้เรียนที่ปฏิเสธโรงเรียน กลุ่มผู้เรียนที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มผู้เรียนที่พิการทางร่างกายและสติปัญญา เป็นต้น ข้อมูลจากการประเมินจึงเป็นหัวใจของสถานศึกษาในการดำเนินการช่วยเหลือผู้เรียนได้ทันท่วงทีอันเป็นโอกาสให้ผู้เรียนได้รับ การพัฒนาและประสบความสำเร็จในการเรียน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น